Backend Survival EP.1 รวมทักษะสำคัญในการเป็น Backend ฉบับโปรแกรมเมอร์ธรรมดา

พรสวรรค์ไม่จำเป็น! พบกับซีรีย์การเอาตัวรอดในโลก Backend ที่คนธรรมดาก็สามารถเรียนรู้และใช้ทำงานได้จริง จากประสบการณ์ตรงของคนที่ไม่ใช่เทพ

Avatar Takai
22/06/2025

เป็น Backend ทำอะไรบ้าง? ต้องมีทักษะอะไรมั้ย? งานเครียดจริงหรือเปล่า? สำหรับใครที่กำลังสงสัย โดยเฉพาะน้องๆ ที่เพิ่งจบใหม่ หรือคนที่อยากย้ายสายงาน… บทความนี้คือคำตอบจากประสบการณ์จริงของโปรแกรมเมอร์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่จะมาเล่าให้ฟังว่ารอดมาได้อย่างไร

Backend ทำอะไรกันแน่? (ฉบับจริงใจ)

สมัยเรียน ผมเชื่อตามตำราว่า Backend คือการพัฒนาและดูแลหลังบ้านให้เว็บไซต์ ถ้าเขียน API สร้าง แก้ไข ลบข้อมูลได้ก็จบแล้ว… แต่โลกการทำงานจริงสอนสัจธรรมข้อหนึ่งให้ผมว่า: ‘ถ้าไม่ซับซ้อน ก็ไม่ใช่ Backend!’

แล้วความซับซ้อนที่ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง? สำหรับผม มันคือการสวมหมวกหลายใบในคนเดียว:

  • เป็น “สถาปนิก” อ่านใจคน: ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดตามสั่ง แต่ต้องแปลง “ความต้องการ” ของผู้ใช้ออกมาเป็นพิมพ์เขียวสถาปัตยกรรมที่แข็งแกร่ง รองรับการต่อเติมในอนาคต และทั้งทีมเข้าใจตรงกัน

  • เป็น “ทัพหน้า” ในสงครามกับความช้าและความล่ม: ทุกครั้งที่ผู้ใช้คลิก คือการต่อสู้เพื่อให้ผลลัพธ์กลับไปเร็วที่สุด (Performance) และต้องสร้างระบบให้ “อึด” ที่สุด (Reliability) ต่อให้ล่มไปส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็ยังต้องรอด

  • เป็น “นักสืบ” ไล่ล่าบั๊กปริศนา: สวมวิญญาณโคนัน ไล่ล่าหาต้นตอของบั๊กที่ซ่อนอยู่ในโค้ดหลายพันบรรทัด บางครั้งก็เจอข้อผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยของตัวเองในอดีต เช่น เขียนตัวแปรผิด

  • เป็น “นักการทูต” สร้างสะพานเชื่อมทีม: สร้าง “ภาษากลาง” อย่างเอกสาร API (API Spec) ที่ชัดเจน ให้ทีม Frontend, Mobile และทีมอื่นๆ ทำงานร่วมกับเราได้อย่างราบรื่น

  • เป็น “ผู้ตรวจสอบด่านแรก”: เขียนเทส (Unit Test) เพื่อการันตีคุณภาพงานของตัวเอง เป็นปราการด่านแรกที่คอยอุดรูรั่วก่อนที่โค้ดจะถูกส่งต่อไป

  • และบางครั้งก็เป็น “จำเลยจำเป็น”: เพราะเมื่อระบบมีปัญหา Backend มักเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรกเสมอ! สิ่งที่ทำได้คือใจเย็น ใช้เหตุผลและข้อมูลเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ความจริง (ข้อนี้ผมแค่อัดอั้นครับ…😂)

ทักษะที่ผมคิดว่าสำคัญสำหรับ Backend ที่พึ่งเริ่มต้น หรือพึ่งย้ายสายงาน

ผมเคยท้อจนอยากหันหลังให้สายงาน Backend… ความรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอและกลัวโดนไล่ออก มันเกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ที่ผมได้เจอกับโปรเจกต์ที่เริ่มจากศูนย์สลับกับโปรดักที่ซับซ้อนมหาศาล แต่สุดท้ายผมก็รอดมาได้ และนี่คือทักษะที่กลั่นกรองจากประสบการณ์จริง ที่ผมเชื่อว่าจะช่วยให้ First Jobber และคนย้ายสายทุกคนรอดชีวิตได้เหมือนกัน

ทักษะทางเทคโนโลยี

ทักษะทางเทคนิคคือเครื่องมือสำคัญในการสร้างสรรค์และแก้ปัญหา นี่คือลิสต์ทักษะที่ Backend Developer ที่ผมใช้ในชีวิตประจำวันครับ

  • เชี่ยวชาญภาษาหลัก 1 ภาษา: เลือกภาษาโปรแกรมมิ่ง (เช่น Go, Python, Java, Node.js) และทำความเข้าใจให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่เขียนได้ แต่ต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้อะไร สำหรับผมเมื่อเข้าใจภาษาใดภาษานึงแล้วจะเรียนภาษาอื่นได้ง่ายขึ้นมากครับ

  • เข้าใจระบบฐานข้อมูล: สามารถเลือกระบบฐานข้อมูลให้เหมาะกับงาน เข้าใจความแตกต่างระหว่าง SQL, NoSQL เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นการทำงานครับ และหากต้องการความได้เปรียบในยุคนี้ผมคิดว่า ควรศึกษา Vector DB เพิ่มเติมครับ เนื่องจากเป็นฐานข้อมูลที่ผมมองว่ามีประโยชน์มากและสนุกมากถ้าเข้าใจว่าทำงานอย่างไรครับ

  • ออกแบบเพื่อประสิทธิภาพ: เข้าใจหลักการทำ Caching เพื่อลดภาระงานและเพิ่มความเร็วในการตอบสนอง และใช้ Message Queue เพื่อจัดการงานเบื้องหลัง (Asynchronous Tasks) ที่ซับซ้อน ซึ่งผมได้ใช้ความรู้นี้ในเกือบทุกงานเลยครับ มันสำคัญมากเลยครับ

  • วางโครงสร้างและออกแบบ API: มีความรู้พื้นฐานด้าน Software Architecture เพื่อวางโครงสร้างที่ขยายต่อได้ และสามารถออกแบบ RESTful API ที่มีมาตรฐานและชัดเจน เพื่อให้ทีมอื่นทำงานต่อได้ง่าย เช่น microservice, distributed system

  • ใช้เครื่องมือพัฒนาให้คล่อง (Dev Tools): มีความสามารถในการใช้เครื่องมือที่จำเป็นต่อการทำงานในปัจจุบัน ทั้ง Git (สำหรับทำงานร่วมกับทีม), Docker (สำหรับส่งมอบงาน) และ Cloud Basics (เพื่อให้เห็นภาพรวมของระบบ) ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าใจทั้งหมดให้ทำความเข้าใจพื้นฐานให้พอทำงานได้ก่อนครับจะทำให้ไม่ท้อง่ายๆที่จะเรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ

  • ใช้ AI อย่างนักพัฒนา (Leveraging AI): ใช้ Generative AI (เช่น Copilot, ChatGPT) ให้เป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “เจ้านาย” ต้อง กลั่นกรอง และทำความเข้าใจทุกคำตอบที่ได้มา เพราะในมุมมองผมนี่คือเส้นแบ่งสำคัญระหว่าง “ผู้ใช้งานทั่วไป” กับ “นักพัฒนา” ผมเองก็ได้ AI ช่วยสอนและชี้แนะแนวทางเยอะครับแต่ก็มีสติและคิดตามตลอดมันเลยทำให้ผมมีความรู้เพิ่มขึ้นได้รวดเร็วมากครับ

ทักษะด้านอื่นๆ

  • ด้านความพยายาม: ผมเคยได้รับมอบหมายงานให้ออกแบบและพัฒนาระบบที่ซับซ้อน โดยที่ผมก็ไม่มีความรู้มาก่อนครับสิ่งทำได้คือ อย่ายอมให้ความไม่รู้มาทำให้ตกงาน พอคิดได้ว่าต้องพยายามก็จะมีแรงทำได้เองครับ ความจนมันน่ากลัวนะครับ

  • ด้านความกล้า: ต้องกล้าที่จะพูดไอเดียที่ตัวเองคิดออกมาครับถึงแม้ว่าเราจะรู้สึกยังไม่เก่งพอก็ตาม เพื่อให้ทีมได้รู้ว่าเราสนใจที่จะทำงานนะ เราอยากที่จะเป็นส่วนนึงกับทีม แต่ก็ต้องดูความเหมาะสมนะครับ อย่าเอาความคิดตัวเองไปครอบงำคนอื่น

  • ด้านการเรียนรู้: ต้องสามารถที่จะเรียนรู้ด้วยตนเองได้ในบางครั้งครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวผมพบว่าถ้าเรารอให้ รุ่นพี่ (Senior) หรือรอใครซักคนให้มาสอนเรา จะช้ามากเพราะมันคือการที่จะต้องแบ่งเวลาการทำงานของเขามาช่วยสอนเราทำให้บางทีเราต้องรอคนสอนว่าง ยิ่งทำให้งานยิ่งช้าขึ้นครับ

Backend งานเครียดจริงมั้ย ?

โดยมุมมองส่วนตัวของผมจะตอบว่า ไม่จริง เพราะความเครียดไม่ได้เกิดจากตำแหน่งหรือสายงานโดยตรงแต่เกิดจากระบบการทำงานขององค์กรที่ทำงานด้วย และ อีกหลายๆปัจจัยครับดังนั้นการเป็น Backend ไม่ได้ทำให้เครียดแต่ผมพบว่าระบบการทำงานขององค์กรที่ทำงานด้วย มีผลอย่างมากครับต่อการเกิดความเครียด ซึ่งไว้ผมจะมาเขียนแชร์ประสบการณ์ความเครียด ของผมเป็นบทความแยกครับ (ในกรณีที่มีคนสนใจ)

บทส่งท้าย

ทั้งหมดที่ผมเล่ามา คือภาพความเป็นจริงของงาน Backend ที่เป็นมากกว่าแค่การเขียนโค้ด แต่คือการสวมหมวกของสถาปนิก นักสืบ นักการทูต และอีกหลายบทบาทเพื่อสร้างระบบที่ใช้งานได้จริง มันคือความท้าทายที่ต้องใช้ทั้งทักษะทางเทคนิคที่แข็งแรง และทักษะด้านการสื่อสารและเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้หลายคน โดยเฉพาะน้องๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นและคนที่กำลังจะย้ายสาย ได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความท้าทายที่รออยู่ครับ หากผู้อ่านมีข้อติชม หรืออยากให้เขียนเกี่ยวกับอะไรเพิ่มเติม สามารถบอกกับผมได้ผ่านทาง คอมเมนต์ของเพจ facebook ได้เลยครับ